ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Microsoft Internet Explorer 9

ข้อแนะนำในการทำเว็บไซต์
    1. การเลือกเนื้อหาเว็บไซต์ ถือเป็นส่วนสำคัญในการเริ่มต้นทำเว็บไซต์ ทั้งการจัดโครงสร้าง และ ความ นิยมของเว็บไซต์ สำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเลือกหัวข้อใด ควรเริ่มต้นจาก การสำรวจตัวเอง ว่า ชอบ หรือ สนใจสิ่งใด มากที่สุด หรือ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านใดมากที่สุด

    2. โครงสร้างของเว็บไซต์ มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ การที่จะทำให้ ผู้เข้าเยี่ยมชม สามารถค้นหาข้อมูล ใน เว็บไซต์ได้อย่างเป็นระบบ ประการแรกต้องพิจารณาถึง ความเป็นไปได้ของประเภทของผู้เข้าเยี่ยมชม เพราะผู้เยี่ยมชมแต่ละประเภท ก็จะค้นหาข้อมูลที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำก็คือการจัดกลุ่ม ของข้อมูลโดยให้รวมหัวข้อย่อยต่างๆ ให้อยู่ในหัวข้อหลัก โดยมีจุดมุ่งหมายให้ จำนวนข้อหลักน้อย ที่สุด นอกจากนี้การจัดไฟล์และไดเร็กทอรี่ ก็จะช่วยให้การดูแลรักษาและการตรวจสอบความ ผิดพลาดของเว็บไซต์ง่ายยิ่งขึ้น เช่น การจัดไฟล์รูปภาพไว้ที่เดียวกัน หรือ จัดเว็บไซต์ที่เป็นเรื่อง เดียวกันไว้ในไดเร็กทอรี่เดียวกัน เป็นต้น

    3. สามารถดูเว็บไซต์ได้ในหลายบราวเซอร์ การทำเว็บไซต์ควรจะทำเพื่อให้สามารถดูได้จากทุกๆ Version ของ Software ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netscape Communicator Internet Explorer หรือ อื่นๆ การ ทำให้ทุกคนดูได้นี้ ถือว่าเป็นการขยายฐานของผู้เข้าเยี่ยมชม

    4. ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ สำหรับหน้าแรกของเว็บไซต์ไม่ควรให้โหลดข้อมูลช้า ปัจจัยที่จะ กระทบต่อความเร็ว ได้แก่ ขนาดของรูปภาพที่ใช้ จำนวนของรูปภาพที่ใช้ และปริมาณของตัวอักษรที่ อยู่บนหน้านั้นๆ อนึ่งความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ อาจอยู่ที่ Server ที่เว็บไซต์นั้นๆอยู่ว่ามี ความสามารถสูงเพียงใด ขนาดของรูปภาพที่ใช้ควรจะมีขนาดไม่เกิน 20-30K ต่อรูป ส่วนประเภทของ รูปนั้นควรเป็น GIF หรือ JPEG ถ้าขนาดของรูปภาพใหญ่เกินไป อาจตัดแบ่งให้ขนาดเล็กลง และใช้ ตารางช่วยในการจัดรูปภาพนั้นๆ

    5. ความง่ายในการค้นหาข้อมูล ปัจจัยหลักนั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเว็บไซต์ตั้งแต่ตอนแรกที่มีการจัด โครงสร้างและจัดกลุ่มของข้อมูล นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกเช่น การมี Navigator bar หรือ แถบนำ ทาง ในทุกๆหน้าของเว็บไซต์ และถ้าสามารถให้บริการ Search และ Sitemap ได้ก็จะเป็นสิ่งที่จะช่วย ให้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

    6. ตัวอักษร, ฉากหลัง และ สี สำหรับรูปแบบที่นิยมใช้คือ ตัวอักษรสีดำ บนฉากหลังขาว ถ้าต้องการ กำหนดประเภทของตัวอักษรควรใช้ที่เป็นสากลนิยม เช่น ในกรณีภาษาอังกฤษ อาจใช้ Arial หรือ Times News Roman เป็นต้น ส่วนภาษาไทย อาจใช้ MS Sans Serif การเลือกใช้ตัวอักษรภาษาไทยนั้น ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะในกรณีที่เครื่องผู้เยี่ยมชมไม่มีตัวอักษรนั้นๆ อาจทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมไม่ สามารถอ่านตัวอักษรได้เลย

    7. รูปภาพ ที่ใช้มี 2 ประเภทคือไฟล์กราฟิกประเภท GIF หรือ JPEG ในปัจจุบันไฟล์ประเภท PNG ก็มี บางเว็บใช้เช่นกัน หนึ่งในหลักการพิจารณาการใช้ประเภทเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คือ จำนวนสีของ รูปภาพนั้นๆ ถ้าเป็นภาพแต่งหรือภาพถ่ายที่มีสีมากๆ ก็ควรใช้ไฟล์ประเภท JPEG แต่ถ้าเป็นเพียงปุ่ม หรือป้ายที่มีสีไม่มากก็ควรใช้ GIF พร้อมกับพิจารณาเรื่องขนาดของไฟล์ด้วย อนึ่งควรจะมีการคะเน ขนาดของรูปภาพที่จะใส่บนเว็บไซต์ก่อน เพื่อจะได้ใช้ขนาด และ อัตราส่วน ที่พึงพอใจมากที่สุด

    8. ส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ของเว็บไซต์ เช่น หัวข้อที่เกี่ยวกับผู้จัดทำ อาจเป็นประวัติความเป็นมา และ/ หรือ ข้อมูลปัจจุบัน (About us) เหล่านี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้เขา้เยี่ยมชม และเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แถบนำทาง Search Sitemap และยังมีหัวข้ออื่นๆ อีก เช่น ข้อเสนอแนะ (Feedback) คำถามที่ถูกถาม บ่อย (FAQ - Frequently Asked Questions)

    9. ก่อนที่จะนำเว็บไซต์ Upload ไปยัง Server ควรจะมีการทดสอบ โดยใช้ทั้ง Netscape Communicator และ Internet Explorer เพื่อดูความเร็วในการโหลดว่าช้าหรือเร็วเพียงใด Link ทั้งภายใน และ ภายนอก ถูกต้องหรือไม่ รูปภาพถูกต้องหรือไม่ พิสูจน์อักษร และอ่านข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลต่างๆ ถูกต้อง

    10. หลังจากที่เว็บไซต์ Publish ถ้าเป็นไปได้ควรทดสอบ เหมือนกับที่ทดสอบก่อนที่จะ Publish เพื่อความ แน่ใจอีกครั้ง นอกจากการทดสอบแล้ว สิ่งที่จะต้องกระทำหลัง Publish คือ การสำรวจ ปรับปรุง และ ดูแลรักษาเว็บไซต์ เมื่อพบความคิดดีๆ ที่อาจนำมาปรับปรุงเว็บไซต์ได้ก็ควรจะจดบันทึกไว้ ถ้าเป็นการ แก้ไขนิดหน่อยก็ควรทำการแก้ไขทันที แต่ถ้าเป็นการแก้ไขที่ต้องใช้เวลานานควรรอสักระยะรวบรวม สิ่งที่ต้องการแก้ไขทั้งหมด



เทคนิคเบื้องต้นในการเขียนบทความ (Blogger)
อีกหนึ่งวิธีในการทำการตลาด การสร้างบล็อกส่วนตัว (Blog) และรังสรรค์บทความที่น่าสนใจ นับเป็นหนึ่งในหลายๆวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆได้รับสิ่งที่เรียกว่า Personal Branding และยังสามารถทำให้เว็บไซด์ของเพื่อนๆเอง ทำเงินได้มากขึ้นด้วย
บล็อก (blog) ไม่ใช่แค่ความสวยงามอลังการด้วยแฟลชที่กระพริบวิบวับทั่วทั้งบล็อก ไม่ใช่การใส่เทคโนโลยีไฮโซอย่างจาวา ไม่ใช่แค่การติดตั้งปลั๊กอินเต็มพรืด หากว่าบล็อกสวยขั้นเทพ สวยจนเคลิ้มไม่กล้าแม้แต่จะคลิก ไม่รู้กระทั่งว่าควรจะคลิกอะไรดี มันก็ไม่มีความหมาย สิ่งต่างๆที่กล่าวมา นั่นเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ แต่พระ/นางตัวจริงของบล็อก คือบทความต่างหากครับหลายคนอยากจะทำบล็อกและหลายคนทำบล็อกไปแล้ว แต่มักจะมีเหตุผลบางอย่างคล้ายๆกันโดยมิได้นัดหมายคือ -ไม่รู้จะเขียนอะไรดี- ผมจับสังเกตจากเว็บ Submit Social และเว็บ Submit Article ผมพบบทความมากมายหลั่งไหลสู่ระบบเน็ทเวิร์ค และผมก็พบอะไรบางอย่าง นอกจากคลิป18+
ก่อนที่จะแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆ เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าแค่การเขียนบทความลงบล็อกจะมีประโยชน์อะไรกับการตลาด อีกทั้งแค่การขีดๆเขียนๆ จะมีทฤษฎีอะไรที่น่าสนใจมากไปกว่าตัวอักษรที่ละลานตา ถ้าใส่คลิป18+ หรือ Sex Story จะง่ายกว่าไหม?
จริงครับ มันอาจจะง่ายกว่า แต่อย่าเพิ่งดูถูกการเขียนบทความนะ ครับ มีนักธุรกิจมากมายที่ประสบความสำเร็จ จากการเขียนบทความเล็กๆน้อยๆ นอกจากโกยรายได้บนโลกออนไลน์ด้วยธุรกิจของเขาแล้ว บางบทความของพวกเขา ได้รับการต่อยอดจนกลายเป็นหนังสือ ได้รับการแปลจนกลายเป็น E-Book กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้อีกประการ
Personal Branding เป็นคำที่นักการตลาดมุ่งหมายให้ได้มาครอบครอง เพราะเมื่อพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า Personal Branding  ถึงเวลาจะหยิบจับอะไรมาขาย ก็ขายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า มันอาจจะต้องใช้เวลาสักนิด และมีวิธีการมากมายหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีการเหล่านั้นก็คือ การเขียนบทความลงบล็อก มันจะทำให้ผู้คนบนโลกออนไลน์ได้รู้จักตัวตนของคุณ มันคือโอกาสอันหอมหวานที่คุณจะได้ขายตัว(เอง)เป็นอันดับแรกปัญหาก็คือ จะเขียนบทความอะไรดีล่ะ (นอกจาก18+)? มาไล่เรียงดูเทคนิคต่างๆกันครับ
ค้นหา Content มาแรง หรือเรื่องราวที่ผู้คนให้ความสนใจมากถึงมากที่สุด เท่าที่ผมสังเกตจากการโหวตของบทความต่างๆในเว็บต่างประเทศ บทความที่มาแรง มักจะเป็นบทความดังต่อไปนี้ครับ
  • เพลง เป็นคีย์เวิร์ดที่ถูกเสิร์ชบ่อยมาก (น่าจะบ่อยที่สุดเลยด้วย) การเขียน Content เกี่ยวกับเพลง เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ คุณอาจจะชื่นชอบเพลงใดใดก็ตาม เขียนถึงมันเสียหน่อย เขียนถึงความหมายในเพลง เขียนถึงเนื้อร้องในเพลง หรืออาจจะมีคลิปจาก youtube อาจจะเป็น MV สิ่งเหล่านี้เป็นความบันเทิงที่คนทั้งโลกชื่นชอบ
  • บุคคลมีชื่อเสียง ข่าวในวงการบันเทิง หรือข่าวสารของผู้มีชื่อเสียง หรือคุณอาจจะมีประวัติเล็กๆน้อยๆของบุคคลที่มีชื่อเสียง นำมาสร้างเป็นบทความได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในวงการบันเทิง การเมือง กีฬา บุคคลในประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่ดาราAV!
  • กีฬา เป็นยาวิเศษ และเป็นบทความที่แสนวิเศษสำหรับชาวบล็อก ผมรู้จักนักธุรกิจคนหนึ่ง เขาทำบล็อกส่วนตัว เมื่อครั้งที่มีเทศกาลฟุตบอลโลก เขาแค่นำตารางการแข่งขันมาแปะลงในบล็อก ปรากฏว่า Traffic ตรึมเลยครับ เรื่องราวของกีฬา เข้าถึงทุกเพศทุกวัยครับ
  • ความรู้รอบตัว คุณคงจำได้ สมัยที่ทำรายงานส่งอาจารย์ คุณจะต้องค้นคว้าหาข้อมูล ในโลกปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่าอินเตอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงข้อมูลไม่ใช่แค่การเข้าห้องสมุดอีกต่อไป เพียงปลายนิ้ว เหมือนที่หลายคนแซวกันว่า อยากรู้อะไรให้ถามอากู๋ (google) ความรู้รอบตัวที่คุณนำมาใส่ในบทความ จะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอะไรก็ได้ ขอเพียงอย่ามั่ว ให้หาแหล่งที่มาชัดเจน คุณอ่านให้เข้าใจก่อน แล้วจึงเริ่มเขียนในแบบฉบับของคุณ ไม่ยากเลย กับการที่จะอธิบายอะไรสักอย่างตามที่ตัวเองเข้าใจ ลองนึกถึงสาวๆในมหาวิทยาลัยทำรายงานฉบับหนึ่งส่งอาจารย์ แล้วเขาอ้างบรรณานุกรมถึงบล็อกของคุณ มันดูดีมีเสน่ห์ขนาดไหนล่ะ จริงไหม
  • เทคโนโลยี มือถือ รถ แล็ปท็อป หรือข่าวสารอัพเดทด้านเทคโนโลยี เป็นอีกเรื่องราวที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด แค่คุณติดตามข่าวสาร IT หรือเทคโนโลยีต่างๆ ก็นับว่าเป็น Content ที่เขียนง่ายๆ รีวิวง่ายๆและน่าสนใจมากครับ
  • แจกของฟรี Content นี้กำลังเป็นที่นิยมมาก ขอเพียงอย่าให้ผิดลิขสิทธิ์ก็พอครับ คุณจะแจกอะไรก็ได้ ภาพถ่ายวิวสวยๆที่คุณถ่ายเอง, คลิปน่ารักของสัตว์เลี้ยงของคุณ, E-Book, หรือแม้แต่แจกรูปของคุณเอง (ถ้ามั่นใจพอนะ) ตัวอย่างที่เห็นตามบล็อกต่างๆ มักจะแจกรูปwallpaper แจก Theme แจกของแต่งบล็อก เป็นต้น
  • Odd Stuff รวมเรื่องแปลก คนเรามีนิสัยอย่างหนึ่งที่เหมือนๆกันคือ ชอบของแปลก พอได้ยินเรื่องราวอะไรที่แปลกๆก็เกิดอยากจะรู้ขึ้นมาทันที เรื่องแปลกในที่นี้ อาจจะเป็นเรื่องลึกลับ, เรื่องผี, เรื่องประหลาด, ที่สุดในโลก, หรือถ้าคุณคิดว่าแฟนของคุณเป็นคนแปลกๆ คุณจะเอามาเขียนก็ได้ไม่ว่ากัน
    นอกจากนี้ ก็ยังมี Content ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งผมคิดว่าง่ายดายสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำบล็อกมากๆครับ
  • ไดอารี่ Content คลาสสิคที่สุดครับ บันทึกประจำวันส่วนตัวของคุณ ผมไม่ค่อยเห็น Content นี้ในเว็บต่างประเทศ แต่ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ จุดกำเนิดของการเขียนบล็อกก็มาจากการเขียนไดอารี่ออนไลน์นี่แหละครับ และมันก็เป็นนิสัยอีกอย่างของคนเรา คือการได้รู้เรื่องของคนอื่นนั่นเอง แต่การจะเขียนไดอารี่ให้น่าสนใจนั้น ไม่ใช่แค่การเขียนว่าตื่นกี่โมงแล้วนอนกี่โมง ขอให้คุณเลือกเขียนเหตุการณ์เด่นๆประจำวันในชีวิตของคุณ เช่นว่า วันนี้คุณไปเดินเที่ยวที่พาราก้อนแล้วเดินชนอั้มพัชราภา อั้มขอโทษคุณด้วยการพาไปเลี้ยงชาบู แบบนี้เป็นต้น การเขียนไดอารี่ เป็นการสื่อถึงความคิดของคุณได้ชัดเจนที่สุดครับ ยิ่งถ้าคนอ่านหลงไหลในไดอารี่ของคุณ เขาจะตามติดคุณทุกฝีก้าวราวกับฆาตกรโรคจิตเลยล่ะครับ
  • Your Favorite เรื่องอะไรก็ได้ที่คุณถนัด สิ่งใดใดก็ตามที่เป็นความสามารถของคุณ แน่นอน คุณไม่ใช่คนมีชื่อเสียง ข่าวสารเกี่ยวกับคุณหรือสิ่งที่คุณมี ไม่ได้ส่งอิทธิพลต่อสังคม หากแต่ว่า คุณไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถ จริงไหม? มีเรื่องราวมากมายที่คุณชอบ และอีกหลายต่อหลายเรื่องที่คุณทำได้ งัดมันออกมา บอกเล่าออกมา ไม่ยากเลยกับการเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองหรือเกี่ยวกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ